วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

ม้าเสือก

เรื่องของ"ม้าเสือก"

โดยหน้าที่และอาชีพทนาย ตลอด12ปีผ่านของผม
ไม่เคยพ้นคำว่า "ทวงหนี้" และ "บังคับคดี"



และทุกครั้งหลังจากกระทำการบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยแล้ว สิ่งที่ต้องกระทำตามมา คือ การเจรจา ไม่ว่าจะเจรจาคุยกันดี หรือต้องขึ้นน้ำเสียงถึงขั้นทะเลาะ
และแน่นอนในการเจรจาหนี้หลายครั้ง ฝ่ายตรงข้ามมักมี"ม้าใช้"ซึ่งต้องมักคิดว่าตนเก๋าพอตัว หรือแน่มีวิชาพอที่จะมาลองดีเจรจาต่อลองหนี้ เหมือนต่อลองสินค้าในตลาดแทนลูกหนี้



แต่คำว่า"ม้าใช้"สำหรับฝ่ายตรงข้ามนั้น ฝ่ายผมมักจะมองว่าเป็น"ม้าเสือก"เพราะมันจะพยายามเก่งทุกอย่าง บางทีก็หาเรื่องหาราวทั้งที่ตัว"ม้าเสือก"เองไม่ได้จ่ายหนี้แทนใครแน่ๆ และหลายครั้งก็กลับเป็นผลร้ายกับฝ่าย"ม้าเสือก"เอง ซึ่งแน่นอนคุยมาดีก็ตีสีหน้าดีไป แต่มาร้ายก็ต้องโดนดี



***คดีนี้กว่าจะยึดทรัพย์จำเลยได้ล่วงเวลากว่า10ปี จำเลยหรือลูกหนี้สิ้นชีพไปตั้งแต่ปี51 คดีจะพ้นระยะเวลาบังคับคดีในอีกไม่กี่วัน พอถูกยึดทรัพย์"ม้าเสือก"รีบรุดเข้ามาทันที
ฝ่ายเราต้อนรับอย่างดี ด้วยต้องตั้งรับในที่ตั้ง หลังบุกทะลวงฟันยึดที่ดินปลอดจำนอง ราคาที่ดินสองล้านกว่าเป็นตัวประกัน

แต่ฝ่าย"ม้าเสือก"เข้ามาก็เจรจากดดันเจ้าของคดีด้วยน้ำเสียง ระดับเบสที่หนักแน่น และถ้อยคำวาจา สั่งปลาเก๋าอยากพบผู้มีอำนาจเหนือกฎหมาย (คือมันจะไม่เอาหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเกณฑ์ แต่อยากชำระตามอำเภอน้ำใจ)

ฝ่ายทนายเจ้าของคดี ยังทนแรงเสียดทานไม่ได้ ด้วยด้อยอาวุโส จึงร้องหาตัวช่วย
เจ้าของคดี : พี่ครับ คือลูกค้าจะขอแต่เข้าคุยผู้ใหญ่ไม่ให้เกียรติผมเลย พยายามชี้แจงแล้วก็ไม่ฟัง (คือมันคุยเสียงดังข่มมา20กว่านาทีแล้ว)
ผม : ไปพาลูกค้ามาหาผม ( ยังยิ้มสนุกอยู่ )

หลังจากไปพาลูกค้าสองคนเข้ามา แล้วยกมือไหว้สวัสดีก่อน ส่วนเจ้าของคดี2คน แอบนั่งคุมเชิง
ผมเปิดเกมส์ลุกใส่"ม้าเสือก" ก่อนทันที ตามนิสัย

ผม : สวัสดีครับ คุณพี่สองคนเป็นใคร? (หน้านิ่งสนิท)
ม้าเสือก : แจ้งเป็นพี่สาวและพี่เขยจำเลย (ทำสีหน้าข่มด้วยเห็นผมเป็นผู้เยาว์)
ผม : ผมหมายถึงคุณพี่สองคนเกี่ยวข้องยังไงในคดี (คือมึงมาเสือกเนี่ยมึงมีชื่อเป็นจำเลยไหม)
ม้าเสือก : ก็เป็นพี่สาวกับพี่เขยไง (เสียงดังพร้อมทำหน้าฉงน)
ผม : แล้วไง ? จำเลยมอบอำนาจมาเหรอ (เสียงเข้มข่ม เพราะรู้ว่าจำเลยตายไปหลายปีแล้ว มึงไม่มีหรอกหนังสือมอบอำนาจ ดังนั้นอย่ามาเสียงดัง)
ม้าเสือก : ก็มาคุยแทนหลานๆ และก็น้องสะใภ้ (หลานๆก็คือทายาทผู้รับมรดกแต่เสียงอ่อนลงไปในลำคอแล้ว)
ผม : แล้วยังไง ? แล้วทำไมทายาท3คน ไม่มาคุยเอง (คือไอ้เด็กทายาท3คน อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่จะข่มไอ้ม้าเสือกนี่ล่ะ ว่ามึงเสือกอยู่ อย่าริเสียงดัง)

คราวนี้ล่ะ"ม้าเสือก"คงรู้ตัวแล้วว่าผมพร้อมที่จะเชิญออก น้ำเสียงอ่อนลงทันที เพราะรู้ตัวแล้วว่าเป็น"ม้าเสือก" รีบนับญาติเป็นพี่เป็นเชื้อขึ้นมาทันที

บทสรุปของคดีนี้ : จากยอดหนี้ที่อนุโลมลดหย่อนให้บางส่วนแล้ว เลยต้องเก็บเพิ่มมาอีก (ค่าผมทำเสียงเข้ม) และจากที่จะช่วยดำเนินการต่างๆให้ หลังจ่ายหนี้เสร็จ เลยให้ไปทำเองซะให้เข็ด (ค่าทำให้ลูกน้องผมตกใจ)

นี่ล่ะ!ผลกรรมของการใช้"ม้าเสือก"ผิดกาละและเทศะ


ส่วนนี่คือ"ม้าเฉียว"1ใน5ขุนพลพยัคฆ์แห่งจ๊กก๊ก

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น