วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คดีอาญาโกงเจ้าหนี้



โดยวิธีการบังคับคดีลูกหนี้ตามคำพิพากษา ผมชอบที่สุดคือวิชาแปลงคดีแพ่งให้เป็นคดีอาญา เพราะวิธีนี้ค่อนข้างจะเห็นผลเร็วและเพิ่มโอกาสให้โจทก์หรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับชำระหนี้เร็วขึ้น ครบถ้วน และแน่นอนมากขึ้น

แต่วิชาแปลงคดีแพ่งให้เป็นคดีอาญาส่วนใหญ่ก็เอาไว้จัดการเฉพาะจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ชอบดื้อแพ่ง เหนียวหนี้ หัวหมอ และพวกชอบคิดทุจริตเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอาญาลักทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก รับของโจร เช็ค และอันสุดท้าย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 หรือที่เรียกกันง่ายๆ ติดปากว่า"โกงเจ้าหนี้"


ไอ้คดีโกงเจ้าหนี้ส่วนตัวผมว่ามันก็ซับซ้อนพอสมควรนะ เกี่ยวกับเรื่องเจตนาของผู้ต้องหาว่ามันเจตนาโกงเจ้าหนี้จริงหรือไม่จริง
อย่างไอ้เรื่องลูกหนี้ตามคำพิพากษาทำการ"ขายฝาก"ที่ดิน บางที่มันก็ดูเจตนายากเหมือนกันว่ามันเจตนาโกงเจ้าหนี้หรือเปล่าเพราะมันยังคงมีกำหนดไถ่ถอนที่ดิน คือมองแล้วมันอ่านเจตนาไม่ขาด
ผมเจอมาเยอะพอควรเรื่องลูกหนี้ขายฝากที่ดินแล้วหลุดขายฝากไม่ไถ่ถอน แต่ก็ไม่เคยพิจารณาองค์ประกอบความผิดแบบชัดแจ้งซักทีว่ามันเข้าฐานความผิดโกงเจ้าหนี้หรือเปล่า เพราะพอจะลงก็ดันตามหนี้ได้ครบจากจำเลยร่วมคนอื่นๆมาก่อน เลยแคล้วคลาดไม่ได้ลงมือทำซะที





มาคราวนี้ล่ะ! ไม่มีคลาดไม่มีแคล้ว ยึดเอาแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12250/2557 นี่ล่ะ

บรรดาจำเลยหรือลูกหนี้ทั้งปวงและทั้งหลายจงฟัง ไม่ต้องคิดหนีหรือเชื่อทะแนะที่ไหนให้หนีหนี้โดยวิธีขายฝากที่ดิน
งานนี้ไม่มีเลี้ยงไว้เชิดหน้าชูคอ ขับรถเก๋งคันโตติดอีโก้แต่ไม่จ่ายหนี้

#ขอบคุณคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12250/2557 ที่ช่วยประสิทธิ์ประสาทวิชา และติดดาบเพิ่มให้อีก1เล่ม